เคล็ดลับเลือกทิศคอนโด ถูกโฉลกตามปีเกิด
ในการเลือกซื้อคอนโดมิเนียม นอกจากจะพิจารณาจากการออกแบบ สถานที่ตั้ง รวมถึงสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกแล้ว ยังมีหลักในการเลือกซื้อคอนโดมิเนียม โดยใช้อาศัยเรื่องของดวงชะตา จากปีนักษัตรของผู้อยู่อาศัยตามศาสตร์ของฮวงจุ้ย เพื่อดูว่าปีเกิดใดควรจะอยู่คอนโดฯแบบใดทิศใดถึงจะดี ถึงจะถูกโฉลกกับเจ้าของห้อง
เมื่อรู้ตำแหน่งทิศที่ถูกโฉลกกับปีเกิดแล้ว วิธีเลือกห้องคอนโดฯ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรแล้ว วิธีหาตำแหน่งก็พิจารณาทิศจริงของคอนโดฯ โดยหาจุดกึ่งกลางของคอนโดฯแล้วแบ่งทิศออกเป็น 8 ทิศหลัก ใครควรจะเลือกตำแหน่งห้องอยู่ด้านไหน มุมไหนของคอนโดฯ ก็รู้ได้ทันที
ถ้าไม่สามารถเลือกทิศที่ถูกโฉลกได้ (กรณีมีคนเลือกไปแล้ว) ก็สามารถเลือกตำแหน่งห้องที่อยู่ในทิศทางอื่นได้ ยกเว้นทิศที่ไม่ถูกโฉลกเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น คนที่เกิดปีเถาะ ธาตุไม้ ถ้าไม่สามารถเลือกทิศตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ทิศเหนือ ซึ่งเป็นทิศถูกโฉลกได้ ก็สามารถที่จะเลือกห้องทางทิศใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือ หรือตะวันตกเฉียงใต้ แทนก็ได้ ยกเว้นทิศตะวันตก กับทิศตะวันตกเฉียงเหนือเท่านั้น
ที่เป็นทิศไม่ถูกโฉลก ก็คงต้องย้ำกันอีกที่ว่าอย่าไปซีเรียสให้มากนักในเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าห้องจะไม่ตรงตามทิศที่ถูกโฉลกกับตัวเอง แต่ถ้าชัยภูมิหรือสภาพแวดล้อมของห้องนั้นดี ก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไร
กรณีกลับกัน ถ้าห้องที่เลือกถูกโฉลกถูกตำแหน่งกับปีเกิด แต่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี เช่น มีตึกบังลม ห้องติดกับสุสาน หรือมีหม้อแปลงไฟฟ้าอยู่ตรงกับห้อง อย่างนี้ถือว่า เสียหาย ไม่ควรเลือกโดยเด็ดขาด
อย่าใช้หลักการพิจารณาแค่ทิศให้ถูกกับดวงชะตาเพียงอย่างเดียว จะต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆประกอบไปด้วย หลายๆคนผิดพลาดในเรื่องนี้ ก็ต้องมานั่งเสียใจภายหลังกฎเกณฑ์ต่างๆในทางฮวงจุ้ยเป็นร้อยเป็นพันข้อนั้น ไม่ใช่กฎเกณฑ์ตายตัว ทุกข้อห้ามข้อบัญญัติ จะมีข้อยืดหยุ่นหรือข้อยกเว้นอยู่เสมอ เหตุผลก็เพราะ สภาพแวดล้อมในแต่ละสถานที่ ย่อมมีสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกันเลย ร้อยบ้านก็ร้อยแบบ
อย่างอาคารพาณิชย์หรือห้องแถว ซึ่งหลายๆคนจะมองว่า เหมือนกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแบบ รูปทรง หรือทิศทาง แต่หลายคนลืมไปว่า จุดที่แตกต่างก็คือ ตำแหน่งของห้องที่ไม่เหมือนกัน ห้องที่อยู่หัวมุม ย่อมต่างจากห้องที่อยู่ตรงกลาง หรือแม้แต่ห้องที่อยู่ติดกันก็ใช่ว่าจะเหมือนกัน เพราะยังมีเงื่อนไขของการจัดวางข้าวของภายในห้องอีก ซึ่งแต่ละที่ก็มีการจัดที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น ควรนำหลายๆปัจจัยมาพิจารณา และที่สำคัญไม่จำเป็นจะต้องถูกต้อง 100 % เพราะไม่มีฮวงจุ้ยที่ไหนถูกต้อง 100 % เอาแค่ให้ถูกเกิน 50-60 % ก็ถือว่าดีแล้ว ชัยภูมิถูก ทิศผิด ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ต้องไปกังวลให้เครียดกันเปล่าๆ
เพราะฮวงจุ้ยที่ดีคือ สถานที่ที่เราอยู่แล้วรู้สึกสบายไม่อึดอัด ให้เน้นในเรื่องนี้ให้มากๆ
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก: บ้านกับฮวงจุ้ย.com
เรียบเรียงเพิ่มเติม: ทีมงานบ้านน่าอยู่
แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าการนำเรื่องของดวงชะตาบุคคลมาพิจารณนั้น เป็นปัจจัยเสริมมากกว่าจะเป็นตัวหลักในการใช้ตัดสิน
ปีกุนและปีชวด
คน เกิด 2 ปีนี้ ในทางฮวงจุ้ยจะจัดเป็นคน "ธาตุน้ำ" ทิศทางตำแหน่งห้องที่ถูกโฉลกควรจะเป็น ทิศเหนือ ตะวันตก และ ตะวันตกเฉียงเหนือ ส่วนทิศต้องห้ามจะเป็น ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ปีขาลกับปีเถาะ
คน เกิด 2 ปีนี้ เป็นบุคคล "ธาตุไม้" ทิศทางตำแหน่งห้องที่ดีควรจะเป็น ทิศตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต้ และ ทิศเหนือ ส่วนทิศร้ายจะเป็น ทิศตะวันตก และ ตะวันตกเฉียงเหนือปีมะเส็งกับปีมะเมีย
เป็นคน "ธาตุไฟ" ทิศทางตำแหน่งห้องที่ถูกโฉลกคือ ทิศใต้ ตะวันออก และ ตะวันออกเฉียงใต้ หลีกเลี่ยงทิศเหนือ เพราะเป็นทิศปะทะโดยตรงปีวอกกับปีระกา
เป็นคน "ธาตุทอง" ทิศทางตำแหน่งห้องที่เหมาะกับคนธาตุทองคือ ทิศตะวันตก ตะวันตกเฉียงใต้ และ ตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนที่ทิศไม่เหมาะก็คือ ทิศใต้ปีฉลู มะโรง มะแม จอ
จัดเป็นคน "ธาตุดิน" ทิศทางตำแหน่งห้องที่ถูกโฉลกควรจะเป็น ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ และ ทิศใต้ ส่วนทิศต้องห้ามจะเป็น ทิศตะวันออก กับ ตะวันออกเฉียงใต้เมื่อรู้ตำแหน่งทิศที่ถูกโฉลกกับปีเกิดแล้ว วิธีเลือกห้องคอนโดฯ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรแล้ว วิธีหาตำแหน่งก็พิจารณาทิศจริงของคอนโดฯ โดยหาจุดกึ่งกลางของคอนโดฯแล้วแบ่งทิศออกเป็น 8 ทิศหลัก ใครควรจะเลือกตำแหน่งห้องอยู่ด้านไหน มุมไหนของคอนโดฯ ก็รู้ได้ทันที
ถ้าไม่สามารถเลือกทิศที่ถูกโฉลกได้ (กรณีมีคนเลือกไปแล้ว) ก็สามารถเลือกตำแหน่งห้องที่อยู่ในทิศทางอื่นได้ ยกเว้นทิศที่ไม่ถูกโฉลกเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น คนที่เกิดปีเถาะ ธาตุไม้ ถ้าไม่สามารถเลือกทิศตะวันออก ตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ทิศเหนือ ซึ่งเป็นทิศถูกโฉลกได้ ก็สามารถที่จะเลือกห้องทางทิศใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือ หรือตะวันตกเฉียงใต้ แทนก็ได้ ยกเว้นทิศตะวันตก กับทิศตะวันตกเฉียงเหนือเท่านั้น
ที่เป็นทิศไม่ถูกโฉลก ก็คงต้องย้ำกันอีกที่ว่าอย่าไปซีเรียสให้มากนักในเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าห้องจะไม่ตรงตามทิศที่ถูกโฉลกกับตัวเอง แต่ถ้าชัยภูมิหรือสภาพแวดล้อมของห้องนั้นดี ก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไร
กรณีกลับกัน ถ้าห้องที่เลือกถูกโฉลกถูกตำแหน่งกับปีเกิด แต่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี เช่น มีตึกบังลม ห้องติดกับสุสาน หรือมีหม้อแปลงไฟฟ้าอยู่ตรงกับห้อง อย่างนี้ถือว่า เสียหาย ไม่ควรเลือกโดยเด็ดขาด
อย่าใช้หลักการพิจารณาแค่ทิศให้ถูกกับดวงชะตาเพียงอย่างเดียว จะต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆประกอบไปด้วย หลายๆคนผิดพลาดในเรื่องนี้ ก็ต้องมานั่งเสียใจภายหลังกฎเกณฑ์ต่างๆในทางฮวงจุ้ยเป็นร้อยเป็นพันข้อนั้น ไม่ใช่กฎเกณฑ์ตายตัว ทุกข้อห้ามข้อบัญญัติ จะมีข้อยืดหยุ่นหรือข้อยกเว้นอยู่เสมอ เหตุผลก็เพราะ สภาพแวดล้อมในแต่ละสถานที่ ย่อมมีสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกันเลย ร้อยบ้านก็ร้อยแบบ
อย่างอาคารพาณิชย์หรือห้องแถว ซึ่งหลายๆคนจะมองว่า เหมือนกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแบบ รูปทรง หรือทิศทาง แต่หลายคนลืมไปว่า จุดที่แตกต่างก็คือ ตำแหน่งของห้องที่ไม่เหมือนกัน ห้องที่อยู่หัวมุม ย่อมต่างจากห้องที่อยู่ตรงกลาง หรือแม้แต่ห้องที่อยู่ติดกันก็ใช่ว่าจะเหมือนกัน เพราะยังมีเงื่อนไขของการจัดวางข้าวของภายในห้องอีก ซึ่งแต่ละที่ก็มีการจัดที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น ควรนำหลายๆปัจจัยมาพิจารณา และที่สำคัญไม่จำเป็นจะต้องถูกต้อง 100 % เพราะไม่มีฮวงจุ้ยที่ไหนถูกต้อง 100 % เอาแค่ให้ถูกเกิน 50-60 % ก็ถือว่าดีแล้ว ชัยภูมิถูก ทิศผิด ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ต้องไปกังวลให้เครียดกันเปล่าๆ
เพราะฮวงจุ้ยที่ดีคือ สถานที่ที่เราอยู่แล้วรู้สึกสบายไม่อึดอัด ให้เน้นในเรื่องนี้ให้มากๆ
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก: บ้านกับฮวงจุ้ย.com
เรียบเรียงเพิ่มเติม: ทีมงานบ้านน่าอยู่
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น